Austria-Germany-Czech-Slovak-Hungary

สถานที่ทัวร์:
ระยะเวลา:
9 วัน
ราคาเริ่มต้น:
฿0
สายการบิน
Emirates

Austria-Germany-Czech-Slovak-Hungary9 วัน 6 คืน

฿0

กรุงเทพ-ดูไบ-ดูไบ-มิวนิค

ออกจากกรุงเทพ-ดูไบ
21.25 น.-00.50 น
ถึงดูไบ-มิวนิค
04.00 น.-08.35 น.

บูดาเปสต์-ดูไบ-ดูไบ-กรุงเทพ

ออกจากบูดาเปสต์-ดูไบ
16.00 น.-23.20 น.
ถึงดูไบ-กรุงเทพ
02.50 น.-12.30 น.

โปรแกรม 9 วัน 6 คืน : เดินทางโดยสายการบินEmirates

18.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ประตู 9 เคาน์เตอร์ T สายการบินเอมิเรตส์ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก ** คณะเดินทางวันที่ 05 พ.ย. 62 เป็นต้นไป นัดหมายเวลา 17.30 น. ** 21.25 น. ออกเดินทางดูไบโดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 373 ** คณะเดินทางวันที่ 05 พ.ย. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 20.35 น. และถึงดูไบ เวลา 00.50 น. **

00.50 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง 04.00 น. ออกเดินทางสู่มิวนิค โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 53 ** คณะเดินทางวันที่ 05 พ.ย. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 03.30 น. และถึงมิวนิค เวลา 07.10 น. ** 08.35 น. ถึงสนามบินมิวนิค (Munich) ประเทศเยอรมนี (Germany) (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง และจะเปลี่ยนเป็น 5 ชั่วโมงในวันที่ 27 ตุลาคม 2562) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 900 ปี และเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นกองบัญชาการทางการทหารเพื่อต่อสู่ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และตัวเมืองโดนกลุ่มสัมพันธ์มิตรถล่มเสียหายเกือบทั่วทั้งเมือง แต่ชาวเมืองก็ได้ร่วมมือกันบูรณะให้กลับมาอยู่ในสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด นำท่านถ่ายรูปกับวิหารเซนต์ลอเรนซ์ (St. Lorenz) วิหารสวยประจำเมือง กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองโรเธนเบิร์ก (Rothenburg) หรือชื่อเต็มคือ โรเธนเบิร์ก ออบ แดร์ เทาเบอร์ ROTHENBURG OB DER TAUBER อดีตเมืองโบราณจากยุคกลางแห่งแคว้นบาวาเรีย ที่ยังคงเอกลักษณ์ของกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเรอเนสซองส์ในรูปแบบเยอรมันขนานแท้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกและสมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากรอดพ้นจากสงครามโลกมาได้ นำท่านชมย่านเมืองเก่าของโรเธนเบิร์ก (Marktplazt) ถ่ายรูปกับศาลาว่าการ Ratstrinkstube สไตล์โกธิคเรอเนสซองค์ ให้เวลาลัดเลาะแนวกำแพงเมืองที่โอบล้อมบ้านเรือนที่ก่อด้วยอิฐสีสันต่างๆและมุงด้วยหลังคาสีส้มซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์แห่งการสร้างบ้านในยุคกลางของเยอรมัน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองมิวนิค (Munich) อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย ยังเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรป ซึ่งมีพรมแดนติดเทือกเขาแอลป์ โดยรัฐบาวาเรียเคยเป็นรัฐอิสระปกครองด้วยกษัตริย์มาก่อน ก่อนที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีจึงมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมเป็นของตัวเองทั้งด้านศิลปวัฒนธรรม และอาหารอันเลื่องชื่อ ซึ่งได้แก่ ไส้กรอกเยอรมัน ขาหมูทอด เพรทเซล และเบียร์ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ที่พัก เดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE MUNICH SUD MESSE SUD หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านสู่เมืองโฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) เมืองเล็กๆที่สวยงามบริเวณเขตชายแดนของประเทศเยอรมนีและออสเตรีย จากนั้นเดินทางขึ้นปราสาทเพื่อเข้าชมความสวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle) นำชมต้นแบบของปราสาทเจ้าหญิงนิทราในดิสนีย์แลนด์ ซึ่งปราสาทนอยชวานสไตน์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาดุจปราสาทในเทพนิยาย ซึ่งเป็นปราสาทของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 หรือ เจ้าชายหงส์ขาว ชมความวิจิตรพิสดารของห้องต่างๆ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยการออกแบบของริชาร์ด ว้ากเนอร์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทรงโปรดปรานยิ่ง *** หากคณะไม่สามารถเข้าชมปราสาทนอยชวานสไตน์ได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินหน้างานท่านละ 13 ยูโร และถ่ายรูปด้านนอกกับปราสาทนอยชวานสไตน์ เป็นการทดแทน *** กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (ขาหมูเยอรมัน) บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิวนิค (Munich) นำชมจัตุรัสมาเรียน พลาสท์ (Marienplatz) ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์และธุรกิจของนครมิวนิค บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่งดงามซึ่งสร้างขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ใช้เวลาสร้างถึง 42 ปี มีหอระฆังสูง 85 เมตร ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวรอคอยเฝ้าชมตุ๊กตาไขลานที่จะออกมาเต้นรำ เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ในช่วงฤดูร้อน อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมและของที่ระลึกตามอัธยาศัย อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก MERCURE MUNICH SUD MESSE SUD หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม หลังจากนั้นออกเดินทางสู่ฮัลสตัท (Hallstatt) หมู่บ้านมรดกโลกแสนสวย อายุกว่า 4,500 ปี เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โอบล้อมด้วยขุนเขาและป่าสีเขียวขจีสวย งามราวกับภาพวาด กล่าวกันว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดใน Salzkammergut เขตที่อยู่บนอัพเพอร์ออสเตรีย และมีทะเลสาบสวยถึง 76 แห่ง ออสเตรียให้ฉายาเมืองนี้ว่าเป็นไข่มุกแห่งออสเตรีย และเป็นพื้นที่มรดกโลกของ UNESCO Cultural-Historical Heritage เพียงเดินเที่ยวชมเมืองเสมือนหนึ่งท่านอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บ่าย นำท่านเดินทางสู่เมืองมรดกโลกเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) นำชมเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเพชรน้ำงามแห่งโบฮีเมีย เมืองที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นเมืองมรดกโลกใน ค.ศ.1992 (World Heritage) เมืองนี้ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำวัลตาวา ความโดดเด่นของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคกลางกว่า 300 ปี หลังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนไว้ให้เป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ให้ท่านถ่ายรูปกับปราสาทครุมลอฟ (Krumlov) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1250 ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองลงมาจากปราสาทปร๊าก มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวอลตาวา (Valtawa River) ตรงบริเวณคุ้งน้ำ ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก BELLEVUE หรือเทียบเท่า *** กรณีโรงแรมที่พักในเมืองเชสกี้ ครุมลอฟ ไม่เพียงพอต่อคณะ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองข้างเคียงทดแทน ***

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำคณะเดินทางสู่กรุงปราก (Prague) เมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐเช็ก อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐเชคโกสโลวาเกีย ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท และโรมแห่งอุดรทิศ กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน บ่าย นำเข้าชมปราสาทแห่งปราก (Prague Castle) ที่สร้างขึ้นอยู่บนเนินเขาตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 9 ในสมัยเจ้าชาย Borivoj แห่งราชวงศ์ Premyslid ซึ่งปัจจุบันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1918 นำเข้าชมมหาวิหารเซนต์วิตุส (St.Vitus Cathedral) อันงามสง่าด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคในสมัยศตวรรษที่ 14 นับว่าเป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปราก ซึ่งพระเจ้าชาร์ลที่ 4 โปรดให้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1344 ภายในเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์สำคัญในอดีต เช่น พระเจ้าชาร์ลที่ 4, พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 และ พระเจ้าแมกซิมิเลี่ยนที่ 2 เป็นต้น (กรณีมีพิธีภายในมหาวิหาร อาจไม่ได้รับอณุญาตให้เข้าชม) ชมพระราชวังหลวง (Royal Palace) ที่เป็นหนึ่งในส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาท ใช้เป็นที่ประทับของเจ้าชายโบฮีเมียนทั้งหลาย แล้วเดินเข้าสู่ย่านช่างทองโบราณ (Golden Lane) ซึ่งปัจจุบันมีร้านขายของที่ระลึก วางจำหน่ายอยู่มากมาย จากนั้นนำท่านเดินเล่นบนสะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) สะพานเก่าแก่ข้ามแม่น้ำวัลตาวา สไตล์โกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 สมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 4 ชมรูปปั้นโลหะของเหล่านักบุญที่ตั้งอยู่สองข้างราวสะพานกว่า 30 องค์ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่เรียงรายอยู่บนตลอดแนวสะพาน จากนั้นนำท่านเดินสู่ ประตูเมืองเก่า “Powder Gate” ขอบเขตเมืองในสมัยโบราณ, ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า (Old Town Hall) ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ (Astronomical Clock) ที่สวยงามและยังตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก DUO หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านเดินทางต่อสู่ สู่กรุงเวียนนา (Vienna) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ผ่านชมเส้นทางธรรมชาติของทิวเขาสูง และพื้นที่อันเขียวชอุ่มของป่าไม้แห่งออสเตรีย กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน บ่าย นำเข้าชมความงดงามของพระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และต่อมาพระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้องในระหว่างปี ค.ศ.1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรงและพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง ซึ่งสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส จากนั้นนำผ่านชมถนนสายวงแหวน (Ringstrasse) ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอันงดงามสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ผ่านชมโรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปีค.ศ.1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ.1955 ผ่านชมพระราชวังฮอฟเบิร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 นำชมบริเวณรอบนอกโบสถ์สเตเฟ่นส์ (St. Stephen’s Cathedral) สัญลักษณ์ของกรุงเวียนนา ซึ่งพระเจ้าคาร์ลที่ 6 โปรดให้สร้างขึ้นในปีค.ศ.1713 เพื่อเป็นการแก้บนต่อความทุกข์ยากของประชาชน ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง (หมูทอดเวียนนา) นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่กรุงบราติสลาว่า (Bratislava) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสโลวัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบที่บริเวณพรมแดนของสโลวัก ออสเตรีย และฮังการี และใกล้กับพรมแดนสาธารณรัฐเช็ก ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOLIDAY INN BRATISLAVA หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทบราติสลาว่า (Bratislava Castle) ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า อดีตเคยเป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ แต่ปัจจุบันเป็นที่ทำการของรัฐบาลสโลวัก และ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจากนั้นนำเข้าสู่ย่านเมืองเก่า (Old Town) ศูนย์กลางทางด้านประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของอาคารที่สำคัญต่างๆมากมาย นำท่านเดินเท้าเข้าสู่บริเวณจัตุรัสกลางเมือง ที่ไม่ใหญ่มากนักแต่ก็เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางและจุดนัดพบ เป็นจัตุรัสที่รายล้อมไปด้วยอาคารสำคัญและสวยงามมากมาย รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลากลางเมือง (Old Town Hall) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อช่วงปี ค.ศ. ที่ 14 และในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นพิภิธภัณฑ์บราติสลาวา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ McArthurGlen Designer Outlet in Parndorf อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย บ่าย ให้เวลาท่านได้อิสระช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น GUCCI, BALLY, HUGO BOSS, BENETTON, BURBERRY, CALVIN KLEIN, CROCS, GEOX, GUESS, LACOSTE, NIKE, OAKLEY, DIESEL และอื่นๆอีกมากมาย ***เนื่องจาก OUTLET จะปิดทำการในวันอาทิตย์ ถ้าหากคณะใดตรงกับวันอาทิตย์ในวันนั้น ทางบริษัทขอสลับโปรแกรมไปในวันถัดไปแทน*** นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชผ่านย่านเกษตรกรรมข้ามพรมแดนสู่ กรุงบูดาเปสต์ (Budapest) เมืองหลวงของ ประเทศฮังการี (Hungary) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ทันสมัยและสวยงามด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนหลายเชื้อชาติที่มี อารยธรรม รุ่งเรืองมานานกว่าพันปี ถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ชมเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามติดอันดับโลกด้วยทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ นำท่านล่องเรือแม่น้ำดานูบอันเลื่องชื่อ ชมความงามของทิวทัศน์และอารยะธรรมฮังการีในช่วง 600-800 ปีมาแล้วที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ 2 ฟากฝั่ง ชมความตระการตาของอาคารต่างๆ อาทิ อาคารรัฐสภา ซึ่งงดงามเป็นที่ร่ำลือ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค บนตัวอาคารประกอบด้วยยอดสูงถึง 365 ยอด นอกจากนี้ท่านจะได้ชม สะพานเชน สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างข้ามแม่น้ำดานูบ โดยนาย WILLIAM TIERNEY CLARK วิศวกรชาวอังกฤษ เหล็กทุกชิ้นที่ใช้ในการสร้างได้ถูกนำมาจากประเทศอังกฤษเช่นกัน (การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงฤดุหนาว น้ำในแม่น้ำอาจกลายเป็นน้ำแข็ง จนไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอคืนเงินจำนวน 10 ยูโรต่อท่าน ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ที่พัก นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ACHAT PREMIUM H. หรือเทียบเ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม นำท่านชมบริเวณ CASTLE HILL ซึ่งเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณอันทรงคุณค่า ถ่ายรูปด้านนอกของอาคารพระราชวังโบราณ แล้วชมบริเวณรอบนอกโบสถ์แมทเธียส (Matthias Church) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดพิธีสวมมงกุฎให้กษัตริย์มาแล้วหลายพระองค์ ชื่อโบสถ์มาจากชื่อกษัตริย์แมทเธียส ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก และยังเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างสิ่งก่อสร้างที่งดงามในเมืองหลวงต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งสร้างในสไตล์นีโอ-โกธิก หลังคาสลับสีสวยงามอันเป็นจุดเด่นที่สุดในศตวรรษที่ 15 ถัดจากโบสถ์เป็นอนุสาวรีย์ของพระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 พระบรมรูปทรงม้า ผลงานประติมากรรมที่งดงามของศตวรรษที่ 11 อยู่หน้า ป้อมชาวประมง (Fisherman’s Bastion) จุดชมวิวเหนือเมืองบูดาที่ท่านสามารถชมความงามของแม่น้ำดานูบได้อย่างดีป้อมแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1905 โดยกลุ่มชาวประมงฮังกาเรียน นำเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน 16.00 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ EK112 ** คณะเดินทางวันที่ 20 ต.ค. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทาง เวลา 14.50 น. และถึงดูไบ เวลา 23.05 น. ** 23.20 น. ถึงสนามบินดูไบ รอเปลี่ยนเครื่อง

02.50 น. ออกเดินทางต่อสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน EK384 ** คณะเดินทางวันที่ 05-13 ส.ค., 10-18 ก.ย., 17-25 ก.ย., 01-09 ต.ค., 13-21 ต.ค.. 62 ออกเดินทาง ด้วยเที่ยวบินที่ EK376 เวลา 03.40 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.15 น. ** ** คณะเดินทางวันที่ 20 ต.ค. 62 เป็นต้นไป ออกเดินทาง ด้วยเที่ยวบินที่ EK376 เวลา 03.30 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 12.35 น. ** 12.30 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร ด้วยความสวัสดิภาพ

ช่วงเวลาการเดินทาง

เริ่มเดินทาง กลับจากเดินทาง สถานะ ผู้ใหญ่พักคู่ ผู้ใหญ่พักเดี่ยว ผู้ใหญ่พักสาม เด็กมีเตียง เด็กไม่มีเตียง
วันที่เดินทาง ราคา