
โปรแกรม 4 วัน 3 คืน : เดินทางโดยรถบัส
วันที่ 1 กรุงเทพฯ – เกาะยอ - กินปูห้อยขา - สุราษฎร์ธานี อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
04.30 น. ทุกท่านพร้อมกันที่ จุดนัดหมาย เจ้าหน้าที่...คอยต้อนรับ พร้อมอำนวยความสะดวกให้ท่านทางด้านกระเป๋าเดินทาง
05.00 น. คณะออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ สุราษฎร์ธานี เพื่อความสะดวก ระหว่างทาง บริการอาหารเช้าแบบปิกนิก มัคคุเทศก์แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยว
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
ช่วงบ่าย เดินทางสู่ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถานสร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายานตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ใช้ภาพพระบรมธาตุไชยาเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำ จังหวัด และกล่าวกันว่าหากใครไม่ได้ไปสักการะพระบรมธาตุไชยาจะถือว่ายังไปไม่ถึงสุราษฎร์ธานีนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยาจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสัมฤทธิ์ที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า
จากนั้น พาช้อปปิ้ง ณ ตลาดสะพานโค้ง 100 ปี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำหน่าย สินค้าแฮนเมด วินเทจ ของเก่า ของที่ระลึก เสื้อผ้า และอาหารหลากหลาย ในบรรยากาศเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบ้านเรือนโบราณสไตล์ชิโน – โปรตุกีส ที่มีสะพานเชื่อมระหว่างอาคารเก่าแก่นับ 100 ปี บนถนนเศรษฐภักดี ใกล้ๆ กับถนนคนเดินริมแม่น้ำตาปีผู้ที่ชื่นชอบถ่ายภาพบรรยากาศแนววินเทจ และการเดิน ชิม ช็อป และเช็กอินจึงไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน เพราะมีมุมสวยๆ มากมาย ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รวมถึงสีสันอันสวยงามโดดเด่นของบานประตูหน้าบ้านแต่ละหลังที่ยังคงเอกลักษณ์ของประตูบานพับของคนจีนสมัยก่อนไว้อย่างสมบูรณ์
19.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารป้ายาหอยสด หลังอาหารกลับเข้าที่พัก
ที่พัก โรงแรม S22 Hotel Suratthani
05.00 น. คณะออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ สุราษฎร์ธานี เพื่อความสะดวก ระหว่างทาง บริการอาหารเช้าแบบปิกนิก มัคคุเทศก์แนะนำโปรแกรมการท่องเที่ยว
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
ช่วงบ่าย เดินทางสู่ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร องค์พระเจดีย์เป็นโบราณสถานสร้างขึ้นตามแบบลัทธิมหายานตั้งแต่ครั้งอาณาจักรศรีวิชัยรุ่งเรือง ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธสถานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมสมัยศรีวิชัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ใช้ภาพพระบรมธาตุไชยาเป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำ จังหวัด และกล่าวกันว่าหากใครไม่ได้ไปสักการะพระบรมธาตุไชยาจะถือว่ายังไปไม่ถึงสุราษฎร์ธานีนอกจากนี้ ภายในบริเวณวัดยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยาจัดแสดงประติมากรรมศิลาและสัมฤทธิ์ที่ค้นพบในเมืองไชยาเก่า
จากนั้น พาช้อปปิ้ง ณ ตลาดสะพานโค้ง 100 ปี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำหน่าย สินค้าแฮนเมด วินเทจ ของเก่า ของที่ระลึก เสื้อผ้า และอาหารหลากหลาย ในบรรยากาศเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของบ้านเรือนโบราณสไตล์ชิโน – โปรตุกีส ที่มีสะพานเชื่อมระหว่างอาคารเก่าแก่นับ 100 ปี บนถนนเศรษฐภักดี ใกล้ๆ กับถนนคนเดินริมแม่น้ำตาปีผู้ที่ชื่นชอบถ่ายภาพบรรยากาศแนววินเทจ และการเดิน ชิม ช็อป และเช็กอินจึงไม่ควรพลาดที่จะมาเยือน เพราะมีมุมสวยๆ มากมาย ให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รวมถึงสีสันอันสวยงามโดดเด่นของบานประตูหน้าบ้านแต่ละหลังที่ยังคงเอกลักษณ์ของประตูบานพับของคนจีนสมัยก่อนไว้อย่างสมบูรณ์
19.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารป้ายาหอยสด หลังอาหารกลับเข้าที่พัก
ที่พัก โรงแรม S22 Hotel Suratthani
วันที่ 2 สุราษฎร์ธานี - ล่องเขื่อนรัชประภา - กระบี่ - เกาะลันตา อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
07.00 น. บริการอาหารเช้า... ณ โรงแรมที่พัก
08.00 น. เดินทางสู่ เขื่อนรัชประภา ลงเรือชมทิวทัศน์อันงดงามทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชประภา สีมรกตประดุจกระจกสะท้อนป่าเขียว ชมยอดเขาหินปูนที่โผล่จากเหนือน้ำ เขาสามเกลอ หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย สมควรแก่เวลากลับเข้าสู่ฝั่ง ขึ้นชมสันเขื่อน เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา เขื่อนที่ผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนสามารถนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
จากนั้น เดินทางสู่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง ที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปแล้ว สถาปัตยกรรมก็มีความน่าสนใจและสวยงามมากทีเดียว อย่างเช่นที่ พุทธาวดี ซุ้มประตูโบราณ มีเจดีย์ 9 ยอดอยู่เหนือด้านบน ยามแสงอาทิตย์ส่องกระทบ ทาบทับกับซุ้มประตูนั้นงดงามจับใจ นับเป็นสถานที่อันซีนของสุราษฎร์ธานี
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารกู้ดวิว สุราษฏร์ธานี บรรยากาศบนสันเขื่อนฯ
บ่าย สมควรแก่เวลาเดินทางต่อสู เกาะลันตา
จากนั้นพาทุกท่านเดินทางไปยัง ชุมชนเมืองเก่าลันตา ที่เที่ยวเกาะลันตาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะลันตาใหญ่ ชุมชนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแหล่งเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวเกาะที่ยังคงพยายามรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมบ้านไม้โบราณหลังใหญ่ที่ดูแปลกตา หรือประภาคารที่สูงกว่าสิบชั้น เป็นส่วนผสมผสานที่เหมาะเจาะกันอย่างลงตัว
18.30 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารชายเล ประกอบด้วย 1.แกงส้มปลาเก๋า + ไข่ปลาริวกิว 2.หมึกไข่ผัดหวาน 3.ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ 4.ผัดกะปิสะตอกุ้ง 5.หอยชักตีนต้มยำทะเล 6.ปลากระพงทอดราดยำสมุนไพร7.กุ้งทอดราดซอสมะขาม 8.ยำสามกรอบ 9.หอยหลอดผัดฉ่า 10.ข้าวสวย น้ำเปล่า น้ำแข็ง
ที่พัก โรงแรม ศรีลันตารีสอร์ท แอนด์ สปา
08.00 น. เดินทางสู่ เขื่อนรัชประภา ลงเรือชมทิวทัศน์อันงดงามทะเลสาบเหนือเขื่อนรัชประภา สีมรกตประดุจกระจกสะท้อนป่าเขียว ชมยอดเขาหินปูนที่โผล่จากเหนือน้ำ เขาสามเกลอ หรือ กุ้ยหลินเมืองไทย สมควรแก่เวลากลับเข้าสู่ฝั่ง ขึ้นชมสันเขื่อน เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา เขื่อนที่ผลิตไฟฟ้า พลังน้ำจากเขื่อนสามารถนำมาผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 315 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง
จากนั้น เดินทางสู่ อุทยานธรรมเขานาในหลวง ที่แห่งนี้ นอกจากจะเป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของบรรดาพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไปแล้ว สถาปัตยกรรมก็มีความน่าสนใจและสวยงามมากทีเดียว อย่างเช่นที่ พุทธาวดี ซุ้มประตูโบราณ มีเจดีย์ 9 ยอดอยู่เหนือด้านบน ยามแสงอาทิตย์ส่องกระทบ ทาบทับกับซุ้มประตูนั้นงดงามจับใจ นับเป็นสถานที่อันซีนของสุราษฎร์ธานี
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารกู้ดวิว สุราษฏร์ธานี บรรยากาศบนสันเขื่อนฯ
บ่าย สมควรแก่เวลาเดินทางต่อสู เกาะลันตา
จากนั้นพาทุกท่านเดินทางไปยัง ชุมชนเมืองเก่าลันตา ที่เที่ยวเกาะลันตาที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะลันตาใหญ่ ชุมชนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแหล่งเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวเกาะที่ยังคงพยายามรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิม นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมสถาปัตยกรรมบ้านไม้โบราณหลังใหญ่ที่ดูแปลกตา หรือประภาคารที่สูงกว่าสิบชั้น เป็นส่วนผสมผสานที่เหมาะเจาะกันอย่างลงตัว
18.30 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารชายเล ประกอบด้วย 1.แกงส้มปลาเก๋า + ไข่ปลาริวกิว 2.หมึกไข่ผัดหวาน 3.ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ 4.ผัดกะปิสะตอกุ้ง 5.หอยชักตีนต้มยำทะเล 6.ปลากระพงทอดราดยำสมุนไพร7.กุ้งทอดราดซอสมะขาม 8.ยำสามกรอบ 9.หอยหลอดผัดฉ่า 10.ข้าวสวย น้ำเปล่า น้ำแข็ง
ที่พัก โรงแรม ศรีลันตารีสอร์ท แอนด์ สปา
วันที่ 3 ท่องทะเลตรัง เกาะรอก เกาะลันตา อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
07.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร
10.00 น. เดินทางถึง เกาะรอกใน ราชินีแห่งท้องทะเลอันดามัน ซึ่งมีหาดทรายสีขาว , น้ำใส , ปะการังหลากหลายสีสัน ทัศนียภาพสวยงามรอบด้าน ลงเล่นน้ำ เพลิดเพลินกับการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ชมสัตว์ทะเลน้อยใหญ่
11.00 น. นำท่านดำน้ำชมปะการังหลากสี เกาะเกาะรอกนอก จุดดำน้ำตื้นมีแนวปะการังหลากสี ปลาปักเป้า หอยมือเสือ ฝูงปลาสีน้ำเงินไม่ผิดหวังำหรับผู้ที่รักการดำน้ำอย่างแน่นอน
11.30 น. ออกเดินทางมุ่งสู่ เกาะกระดาน และอิ่มอร่อยกับอาหารเที่ยง บนเรือ
12.30 น. เรือจอดหน้าอุทยานฯ สัมผัสกับหาดทรายขาวละเอียดเหมือนแป้ง และน้ำใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่ง ชมฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายอย่างสวยงาม
14.00 น. ขึ้นเรือ มุ่งหน้าสู่ เกาะเชือก ซึ่งเป็นเป็นเกาะหินเล็กๆ ไร้หาด 2 เกาะ ระหว่าง 2 เกาะนี้มีกระแสน้ำเชี่ยว จึงต้องใช้เชือกคอยช่วงพยุงตัวเวลาดำน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ
14.40 น. เดินทางถึง เกาะเชือก ลงน้ำดูปะการังอ่อนหลากสี ที่ปกติแล้วจะพบแต่ในน้ำลึก สามารถพบเห็นได้ที่ระดับน้ำไม่ลึกนักที่เกาะเชือกนี้เท่านั้น ต่อจากนั้นก็ต่อไปยัง เกาะม้า ที่นี่มีทั้งปะการังแข็ง และปะการังอ่อน พร้อมหยอกล้อกับหมู่ปลาหลากสีที่ออกมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
15.00 น. เดินทางกลับเข้าสู่ เกาะลันตา ผ่านเกาะแก่งมากมาย และชม ทัศนียภาพอุทยานแห่งชาติเกาะลันตา
16.30 น. เดินทางกลับถึง ท่าเรือเกาะลันตา รถปรับอากาศคันเดิมรอรับคณะกลับเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในที่พักได้ตามอัธยาศัย
18.30 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก โรงแรม ศรีลันตารีสอร์ท แอนด์ สปา
10.00 น. เดินทางถึง เกาะรอกใน ราชินีแห่งท้องทะเลอันดามัน ซึ่งมีหาดทรายสีขาว , น้ำใส , ปะการังหลากหลายสีสัน ทัศนียภาพสวยงามรอบด้าน ลงเล่นน้ำ เพลิดเพลินกับการดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น ชมสัตว์ทะเลน้อยใหญ่
11.00 น. นำท่านดำน้ำชมปะการังหลากสี เกาะเกาะรอกนอก จุดดำน้ำตื้นมีแนวปะการังหลากสี ปลาปักเป้า หอยมือเสือ ฝูงปลาสีน้ำเงินไม่ผิดหวังำหรับผู้ที่รักการดำน้ำอย่างแน่นอน
11.30 น. ออกเดินทางมุ่งสู่ เกาะกระดาน และอิ่มอร่อยกับอาหารเที่ยง บนเรือ
12.30 น. เรือจอดหน้าอุทยานฯ สัมผัสกับหาดทรายขาวละเอียดเหมือนแป้ง และน้ำใสจนมองเห็นแนวปะการังซึ่งทอดยาวจากชายหาดด้านเหนือถึงชายฝั่ง ชมฝูงปลาหลากสีแหวกว่ายอย่างสวยงาม
14.00 น. ขึ้นเรือ มุ่งหน้าสู่ เกาะเชือก ซึ่งเป็นเป็นเกาะหินเล็กๆ ไร้หาด 2 เกาะ ระหว่าง 2 เกาะนี้มีกระแสน้ำเชี่ยว จึงต้องใช้เชือกคอยช่วงพยุงตัวเวลาดำน้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ
14.40 น. เดินทางถึง เกาะเชือก ลงน้ำดูปะการังอ่อนหลากสี ที่ปกติแล้วจะพบแต่ในน้ำลึก สามารถพบเห็นได้ที่ระดับน้ำไม่ลึกนักที่เกาะเชือกนี้เท่านั้น ต่อจากนั้นก็ต่อไปยัง เกาะม้า ที่นี่มีทั้งปะการังแข็ง และปะการังอ่อน พร้อมหยอกล้อกับหมู่ปลาหลากสีที่ออกมาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว
15.00 น. เดินทางกลับเข้าสู่ เกาะลันตา ผ่านเกาะแก่งมากมาย และชม ทัศนียภาพอุทยานแห่งชาติเกาะลันตา
16.30 น. เดินทางกลับถึง ท่าเรือเกาะลันตา รถปรับอากาศคันเดิมรอรับคณะกลับเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในที่พักได้ตามอัธยาศัย
18.30 น. บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหาร
ที่พัก โรงแรม ศรีลันตารีสอร์ท แอนด์ สปา
วันที่ 4 เกาะลันตา - กระบี่ – สระมรกต - ศาลเจ้าตาหินช้าง - กรุงเทพ อาหาร (เช้า/กลางวัน/เย็น)
08.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังอาหาร นำทุกท่านเช็คเอาท์
จากนั้น เดินทางกลับสู่ กระบี่ นำท่านเดินทางสู่ สระมรกต สระน้ำธรรมชาติที่มีความสวยงามมาก เพราะมีน้ำใสสีเขียวมรกต มีลักษณะเป็นบ่อหินปูนที่สามารถลงเล่นน้ำได้เลยค่ะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีบรรยากาศของป่าเขาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามล้อมรอบ น้ำภายใน สระมรกต จะสามารถเปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสงแดด โดยสระแห่งนี้กำเนิดขึ้นมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำของภาคใต้นี้ค่ะ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อน ลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระด้วย มีทั้ง สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียสโดยประมาณ
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ครัวยุ้งข้าว สุราษฎร์ธานี
บ่าย เดิ้นทางต่อแวะไหว้ ศาลเจ้าตาหินช้าง พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากกล้วยเล็บมือนางมากมาย
18.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารคุณต้น ประจวบคีรีขันธ์ หลังอาหารเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
00.00 น. (เวลาโดยประมาณขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทาง) เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ ส่งท่านยังจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ
จากนั้น เดินทางกลับสู่ กระบี่ นำท่านเดินทางสู่ สระมรกต สระน้ำธรรมชาติที่มีความสวยงามมาก เพราะมีน้ำใสสีเขียวมรกต มีลักษณะเป็นบ่อหินปูนที่สามารถลงเล่นน้ำได้เลยค่ะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีบรรยากาศของป่าเขาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามล้อมรอบ น้ำภายใน สระมรกต จะสามารถเปลี่ยนสีไปได้ตามวันเวลาและสภาพแสงแดด โดยสระแห่งนี้กำเนิดขึ้นมาจากธารน้ำอุ่น ในผืนป่าที่ราบต่ำของภาคใต้นี้ค่ะ ซึ่งเป็นน้ำพุร้อน ลักษณะเป็นสระน้ำร้อน 3 สระด้วย มีทั้ง สระแก้ว สระมรกต และ สระน้ำผุด อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียสโดยประมาณ
12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ครัวยุ้งข้าว สุราษฎร์ธานี
บ่าย เดิ้นทางต่อแวะไหว้ ศาลเจ้าตาหินช้าง พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากกล้วยเล็บมือนางมากมาย
18.00 น. บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารคุณต้น ประจวบคีรีขันธ์ หลังอาหารเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ
00.00 น. (เวลาโดยประมาณขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรในวันเดินทาง) เดินทางกลับถึง กรุงเทพฯ ส่งท่านยังจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ